บ้านคามิลเลียนฯให้ความสำคัญในด้านการศึกษาเป็นอย่างมาก การศึกษาที่เด็กๆได้รับจากบ้านคามิลเลียนฯ เทียบเท่าได้กับการศึกษาระดับการศึกษาทั่วไป ที่รับรองโดยกระทรวงศึกษาธิการ เราให้การศึกษาที่เหมาะสมกับความสามารถและการเรียนรู้ของเด็ก ทางบ้านได้รับความร่วมมือจากสำนักงานการศึกษาตามอัธยาศัย เขตลาดกระบัง ซึ่งให้เรานำหลักสูตรกศน.มาใช้ และปรับให้เหมาะสมกับเด็กพิการ ในระดับการเรียนรู้ ทั้งอนุบาลประถมศึกษา และมัธยมศึกษา

มีเด็กพิการมาใช้บริการกับแผนกการศึกษาทั้ง 4 ระดับของบ้านคามิลเลียนฯ เฉลี่ยจำนวน 358 ครั้ง ต่อเดือน โดยครูการศึกษาพิเศษประจำบ้านคามิลเลียนฯ 2 ท่าน ครูพี่เลี้ยง 3 ท่าน ครูการศึกษาพิเศษจากหน่วยงานการศึกษาตามอัธยาศัย จำนวน 2 ท่าน น้องเต้ย ที่เรียนจบระดับปริญญาตรี คณะบริหารธุรกิจ สาขาบัญชี เกียรตินิยมอันดับ 1 ได้ทำในบริษัทคาร์ซัม ซึ่งถือได้ว่าเป็นน้องผู้พิการที่ประสบความสำเร็จ และน้องวา ศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย ชั้นปีที่ 2 คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ และนวัตกรรมสื่อศิลป์ สาขานวัตกรรมดิจิตอน และสื่อ มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ ทางสถานสงเคราะห์จึงภาคภูมิใจในความสามารถของเด็กผู้พิการ

โครงการอาหาร เพื่อเด็กพิการบ้านคามิลเลียนฯ เรามุ่งหวังที่จะช่วยเหลือ พัฒนา เด็กพิการ และคนพิการให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และสามารถอยู่ได้ด้วยตนเอง บ้านคามิลเลียนฯ ให้บริการโดยไม่ได้คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น โภชนาการที่ดีเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาทางร่างกาย จิตใจ และ สังคม ความคิด ความตระหนัก เห็นคุณค่าของตัวเอง พร้อมที่จะพัฒนาตัวเองเพื่อเป็นคนหนึ่งที่มีคุณค่าอย่างสมดุล และทำประโยชน์เพื่อสังคมต่อไป

1. กิจกรรมอิ่มท้อง-สมองใส (อาหารเช้า)
2. กิจกรรมท่านอิ่มบุญ-น้องอิ่มท้อง (อาหารกลางวัน)
3. กิจกรรมน้องอิ่มท้อง-นอนหลับสบาย (อาหารเย็น)

โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้เด็กได้รับคุณค่าทางอาหารอย่างครบถ้วน ส่งเสริมให้เด็กได้รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เด็กๆ มีความพร้อมในการฟื้นฟูอย่างเต็มที่ในทุกๆ วัน การเลี้ยงอาหารมีรูปแบบอยู่ 2 รูปแบบ

1. ผู้บริจาคนำอาหารมาเอง
2. ทางสถานสงเคราะห์จัดทำ มื้อเช้า และ เย็น มื้อละ 3,000 บาท ส่วนมื้อกลางวัน จะมื้อละ 4,000 บาท ผู้บริจาคสามารถเลี้ยงอาหารกับน้อง ๆ ผู้พิการแบบออนไลน์ และมาร่วมกับน้อง ๆ ภายในสถานสงเคราะห์ได้

เนื่องจากเด็กพิการที่อยู่ภายในสถานสงเคราะห์ส่วนใหญ่ มาจากครอบครัว ที่ขาดความพร้อมทั้งฐานะ และการดูแลเอาใจใส่ โครงการศิลปะบำบัด จึงมุ่งเน้นในเรื่องการบำบัดสภาพภายในของเด็ก ๆ คือด้านสังคม อารมณ์ และจิตใจ เพื่อให้เด็ก ๆ มีสมาธิ มีความใจเย็น สามารถเข้าร่วมในสังคม และก้าวสู่การพัฒนาในด้านอื่น ๆ ต่อไป อีกทั้งผลงานจากการทำศิลปะบำบัดยังเป็นการสร้าง อาชีพของผู้พิการอีกทางหนึ่งด้วย

โดยมีวัตถุประสงค์ คือ เพื่อให้เด็กพิการมีสมาธิ และมีความใจเย็นมากยิ่งขึ้น ให้เด็กพิการได้มีโอกาสสร้างจิตนาการในตัวเองให้เป็นที่ประจักษ์แก่บุคคลที่พบเห็นโดยนำผลงานศิลปะจากฝีมือของ น้อง ๆ ทำเป็นของใช้ เช่น แก้วน้ำ กระเป๋า และเสื้อ เพื่อเป็นของที่ระลึกแก่ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมสถานสงเคราะห์ได้ช่วยกันระดมทุน สนับสนุนช่วยเหลือเด็กๆ ผู้พิการได้อีกช่องทางหนึ่ง ซึ่งถือกิจกรรมที่เป็นการปลูกฝังให้เด็กพิการได้เห็นคุณค่า และภูมิใจในตนเอง

สถานสงเคราะห์เด็กบ้านคามิเลียนจึงได้จัดทำโครงการ เกษตรสร้างสุข (Happy Farm) โดยมูลนิธิคณะนักบุญคามิลโลแห่งประเทศไทย /มูลนิธิแบ่งปันชีวิตลาดกระบัง และสถานสงเคราะห์เด็กบ้านคามิลเลียนเพื่อเด็กพิการลาดกระบัง พื้นที่จำนวน 8 ไร่ โดยได้รับการสนับสนุนที่ดินจากผู้มีจิตใจเมตตาเพื่อใช้ประโยชน์ในโครงการดังกล่าว เป็นระยะเวลานาน 15 ปี สถานที่ตั้งโครงการอยู่บริเวณ เลียบคลอง 13 ถนนประชาสำราญ แขวงหนองจอก เขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าโครงการมีความกว้าง 39.72 เมตร ด้านหลังกว้าง 22.11 เมตร และมีความยาว 515.26 เมตร

โครงการ เกษตรสร้างสุข (Happy Farm) จะเป็นแหล่งการเรียนรู้ และส่งเสริมสร้างการเรียนรู้สวนเกษตรบำบัดให้กับเด็กๆผู้พิการของสถานสงเคราะห์เด็กบ้านคามิลเลียนเพื่อเด็กพิการลาดกระบัง ที่มุ่งสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ตั้งแต่กาย ใจ และการมีส่วนร่วมของชุมชน เพื่อเสริมสร้างการเรียนรู้ เรื่อง สวนบำบัดที่ส่งผลต่อการบริโภคผักปลอดสาร อาหารผลิตเอง ให้กลุ่มเด็กพิการได้บริโภคเอง เกิดการเรียนรู้กระบวนต่าง ๆ สามารถเป็นต้นแบบ ถ่ายทอดให้กับเพื่อนกลุ่มเด็กพิการในชุมชนที่เข้ารับการบริการ สร้างกระบวนการอยู่ร่วม สร้างความตระหนัก เห็นคุณค่าของตัวเอง พร้อมที่จะพัฒนาตัวเองเพื่อเป็นคนหนึ่งที่มีคุณค่าอย่างสมดุล และทำประโยชน์เพื่อสังคมต่อไป

โครงการ สวนเกษตรบำบัด สำหรับ เด็ก ๆ ผู้พิการ และเจ้าหน้าที่ได้ทำกิจกรรม ดังนี้

1. กิจกรรมการเรียนรู้เรื่องดิน และพืช
2. กิจกรรมการเลี้ยงปลาดุก และกบ
3. กิจกรรมการปลูกผักปลอดสารพิษ

สร้างกระบวนการเรียนรู้การใช้พืชสวนบำบัด นำสู่การปฏิบัติ การผลิต ที่ส่งต่อการบริโภคผักปลอดสารพิษ ที่ปลูกภายในบ้านคามิลเลียนเพื่อเด็กพิการ ลาดกระบัง กิจกรรมการเรียนรู้สวนเกษตรบำบัด มุ่งพัฒนาเพื่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ตั้งแต่กาย ใจ และการใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติ ทำให้เด็ก ๆ ผู้พิการในบ้านคามิลเลียน มีกิจกรรมที่สนุกสนาน ไม่น่าเบื่อ ช่วยสำหรับฟื้นฟู กล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ภายในร่างกายของเด็กพิการให้มีความแข็งแรงขึ้น พืชสวนบำบัด จะมีส่วนช่วยในการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีกับเด็ก ๆ พิการ บ้านคามิลเลียน ฯ การบริโภคผักปลอดสารพิษ เป็นการรับประทานอาหารที่เด็ก ๆ ผู้พิการได้ผลิตเอง เกิดการเรียนรู้กระบวนการผลิต ดูแล จัดเก็บ และบริโภค เกิดความภาคภูมิใจ ในผลงานของตนเอง เห็นคุณค่าของตัวเอง พร้อมที่จะพัฒนาให้เป็นคนหนึ่งที่มีคุณค่าอย่างสมบูรณ์ และทำประโยชน์เพื่อผู้อื่นต่อไป

สถานสงเคราะห์เด็กบ้านคามิลเลียนเพื่อเด็กพิการลาดกระบัง นอกจากจะดูแลน้อง ๆ ผู้พิการที่อยู่ประจำ และไป-กลับ แล้วนั้น เรายังคำนึงถึงการช่วยเหลือผู้พิการที่อยู่ในระแวกชุมชนใกล้เคียง ที่มีความพิการทั้งจากพิการโดยกำเนิด และความพิการจากภาวะของโรคประจำตัว เป็นผู้พิการที่มีฐานะยากจน และขาดโอกาสที่จะได้รับการช่วยเหลือจากองค์กรอื่นๆ โดยจัดทำโครงการ ศุกร์ปันสุข เพื่อดูแลผู้พิการกลุ่มนี้โดยเฉพาะ เพื่อให้เขาได้รับความช่วยเหลือจากสถานสงเคราะห์

สถานสงเคราะห์เด็กบ้านคามิลเลียนเพื่อเด็กพิการ ลาดกระบัง ให้การบริการแก่ น้องๆ ผู้พิการที่ครอบครัวยากจน คุณครูกุ้ง และคุณครูโป้ง จะเป็นผู้เดินทางไปรับ และส่งเด็ก ๆ ทุกคนที่เข้ารับบริการจากบ้านคามิลเลียน ฯ รูปแบบ ไป - กลับ ตั้งแต่วันจันทร์ จนถึง วันเสาร์ ในเวลา 7.30 น. และ เวลา 15.00 น. ทางศูนย์ไม่คิดค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น รวมถึงให้การศึกษา การทำกายภาพบำบัด และการฝึกอาชีพ นอกจากนี้เพื่อให้กิจกรรมนี้เข้าถึงได้ง่ายขึ้น เรายังให้บริการรับ-ส่งแก่ผู้พิการด้วยที่มาทำกายภาพบำบัด เด็ก ๆ จะมีความมั่นใจ มากขึ้น และสามารถพัฒนาในด้านสังคมรวมถึงการดำรงชีวิตประจำวัน เป็นการช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย และคลายความกังวลให้กับครอบครัวอีกด้วย

สถานสงเคราะห์เด็กบ้านคามิลเลียน เพื่อเด็กพิการลาดกระบัง ได้ดำเนินโครงการ เหลือ หนูขอ เพื่อขอรับบริจาคสิ่งของเหลือใช้ ที่ผู้บริจาคไม่ใช้งานแล้ว แต่ยังสามารถใช้งานได้ และมีสภาพดี อาทิเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า ( ทุกประเภท ทุกเพศ ทุกวัย ) เครื่องใช้ไฟฟ้า ของใช้จิปาถะทั่วไป โดยของที่ได้รับบริจาคจะถูกคัดแยก เลือกสรรให้เด็ก ๆ ผู้พิการได้ใช้ประโยชน์ก่อนอันดับแรก หลังจากนั้น เจ้าหน้าจะทำการคัด ส่วนที่เหลือ เพื่อนำไปร่วมทำบุญให้กับผู้ที่สนใจ และผู้มีรายได้น้อย ในร้าน ปันบุญ

( บริการฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ )